ค่า
สำหรับใช้ในการคำนวณความต้องการพลังงานขณะออกกำลังกาย (ไม่ใช่ค่า Activity
Factor) พลังงานที่ได้สามารถนำไปบวกกับ BEE / BMR ได้โดยตรง
ยกตัวอย่างการคำนวณ เช่น เป็นผู้หญิง อายุ 26 สูง 165 น้ำหนัก 55 กิโลกรัม เต้นแอโรบิค เป็นเวลา 60 นาที ต้องใช้พลังงาน
ค่า BEE ใช้ในการบอก Basal Energy Expenditure ซึ่งนับเฉพาะการใช้พลังงานขั้นพื้นฐานของร่างกายไม่รวม Activity ต่างๆ การนำค่า Activity นี้มาใช้แทน Activity Factor จะคำนวณความต้องการพลังงานได้ใกล้เคียงกว่า เนื่องจากการมีการแบ่งชนิดของการใช้พลังงานที่ละเอียดกว่า
Activity | Energy / Kg / Hr |
---|---|
นอนหลับ | 0.9 |
นั่งรับประทาน | 1.2 |
ยืน | 1.2 |
พิมพ์ดีด | 1.5 |
นั่งเขียนหนังสือ | 1.8 |
ซักผ้า | 2 |
รีดผ้า | 2.3 |
เดินจ่ายของ | 2.3 |
ปรุงอาหาร | 2.5 |
กวาดพื้น | 2.5 |
ตัดเย็บเสื้อผ้า | 2.5 |
เดินในที่ทำงาน | 3 |
เดินลงบันได | 3 |
ทำความสะอาดบ้าน | 3.5 |
เดินด้วยความเร็วปานกลาง | 3.5 |
ขี่จักรยานช้าๆ | 4 |
เต้นรำ | 4.5 |
เต้นแอโรบิค | 5 |
เดินขึ้นบันได | 5 |
ตัดหญ้า | 5.5 |
วิ่งเหยาะ | 7 |
ว่ายน้ำเบาปานกลาง | 8 |
- คิดจาก Harris - Benedict Equation ได้ BEE เป็น 1358 ปัดได้ 1400 Kcal
- เต้นแอโรบิค ใช้พลังงาน 5.5 Kcal / hr / Kg body weight คือ 5.5 x 55 x 1 = 302 ปัดได้ 300 Kcal ต่อการออกกำลังกายของผู้หญิงคนนี้
ค่า BEE ใช้ในการบอก Basal Energy Expenditure ซึ่งนับเฉพาะการใช้พลังงานขั้นพื้นฐานของร่างกายไม่รวม Activity ต่างๆ การนำค่า Activity นี้มาใช้แทน Activity Factor จะคำนวณความต้องการพลังงานได้ใกล้เคียงกว่า เนื่องจากการมีการแบ่งชนิดของการใช้พลังงานที่ละเอียดกว่า
No comments:
Post a Comment